บทนำ

ภาพเหล่านี้สะท้อนเพียงส่วนหนึ่งของทฤษฎีการลงทุน แต่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ซึ่งรวมถึงกลยุทธ์ในการเข้าตลาดและออกตลาด จากมุมมองของการซื้อขายแบบระบบ กลยุทธ์ในการเข้าตลาดที่ดีสามารถปรับปรุงความเชื่อถือได้และเสถียรภาพของระบบ ในขณะที่กลยุทธ์ในการออกตลาดสามารถทำให้การทำกำไรสูงสุดและปกป้องเงินทุนของคุณได้มากที่สุด กลยุทธ์ในการออกตลาดเป็นส่วนสำคัญของทฤษฎีการลงทุน ซึ่งรวมถึงการหยุดขาดทุนและการออกเมื่อทำกำไร เมื่อพูดถึงการหยุดขาดทุนเราไม่ต้องพูดมาก ถึงการออกเมื่อทำกำไรหลักการของฉันคือเมื่อถึงจุดเป้าหมายต้องออกมาอย่างแน่นอน อย่างน้อยก็ต้องลดสถานะลง เพราะว่าแนวโน้มในอนาคตไม่สามารถคาดเดาได้มากนัก

กลยุทธ์ในการเข้าตลาด

จุดเข้าตลาดมักจะมาจากการสังเกตและรอคอยอย่างอดทนและละเอียด หลังจากนั้นจึงมาถึง บ่อยครั้งที่ฉันกำลังรอคอย โอกาสที่จริงจังในการเข้าตลาดที่จะพูดตามตรงก็น้อยมาก สำหรับการซื้อขายแบบระบบ ไม่สามารถตัดสินตลาดว่าเป็นจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดด้วยความรู้สึกส่วนตัวได้ แต่เมื่อใดที่ตลาดให้สัญญาณที่อาจเปลี่ยนทิศทาง หรือมีจุดกลับตัวเกิดขึ้นเท่านั้นที่สามารถทำการซื้อขายในทิศทางตรงข้ามได้ มิฉะนั้นก็ต้องตามกระแสหลักไป กล่าวคือ ในการดำเนินการจริงต้องมีมาตรฐานการดำเนินการ กำหนดหลักการการซื้อขายบางอย่าง และเมื่อมาตรฐานถูกตั้งขึ้นตามหลักการที่เปลี่ยนแปลงทิศทางเบื้องต้นถึงจะสามารถเข้าตลาดได้

การใช้ราคามาเป็นหลัก

ในทฤษฎีการลงทุนของฉันแทบจะไม่พิจารณาสถานะของดัชนีในปัจจุบัน เพราะฉันรู้ว่าดัชนีนั้นล่าช้า ราคาเพิ่มขึ้น ดัชนีก็ต้องขึ้นตาม และในทางกลับกันในช่วงที่เกิดการชะงักก็ไร้ค่ามาก ฉันใช้ราคาเป็นอ้างอิงเพียงอย่างเดียวในการดำเนินการ ทั้งนี้เพราะราคาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด! ในการซื้อขายของฉัน จะมีกรณีที่ราคาซื้อครั้งถัดไปสูงกว่าราคาขายครั้งก่อนเสมอ ซึ่งเป็นสัญญาณจากระบบ ถ้าเป็นแนวโน้มขาขึ้น ราคาที่เข้าตลาดอาจสูงกว่าราคาที่ออกตลาดก่อนหน้านี้ แต่ถึงอย่างไร ความหมายทางเทคนิคจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ความคิดในการซื้อขายนั้นมีพื้นฐานมาจากกฎบางประการในทฤษฎีคลื่น เช่น คลื่นสามไม่ควรต่ำกว่าคลื่นหนึ่ง คลื่นสองไม่ควรสร้างต่ำใหม่ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ได้เปลี่ยนสู่ความคิดในการซื้อขายว่าถ้าไม่สร้างต่ำ (สูง) ก็มีโอกาสสร้างสูง (ต่ำ) ใหม่ แบบไม่ใช่คลื่นสาม เป็นต้น หลักการนั้นเรียบง่ายและสามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย

การเข้าตลาดอย่างชาญฉลาด

แนวคิดที่สำคัญที่แสดงในภาพด้านล่างนี้คือหลักการที่สำคัญในการซื้อขาย คือการเข้าตลาดในจุดที่ง่ายที่สุดในการหยุดขาดทุน! จุดที่เรียกว่า “จุดที่ง่ายที่สุดในการหยุดขาดทุน” มีดังนี้ 1. จุดราคาหยุดขาดทุนสามารถตั้งได้ง่าย (เช่น บรรทัดแนวโน้ม, จุดยอดโค้ง, จุดคอ) 2. ราคาที่เข้าตลาดไม่ห่างจากราคาหยุดขาดทุน (หากไกลเกินไปจะทำให้การหยุดขาดทุนไม่มีความหมาย) นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “จุดที่ง่ายที่สุดในการหยุดขาดทุน” ทำไมจึงต้องเข้าตลาดในจุดที่ง่ายที่สุดในการหยุดขาดทุน? เพราะนี่คือการสะท้อนให้เห็นว่าการซื้อขายทุกครั้งมีการเตรียมหยุดขาดทุนอย่างชัดเจน โดยมีการชี้แจงการขาดทุนแต่ละครั้งเพื่อหาโอกาสทำกำไรเพิ่มเติม กฎการทำงานเช่นนี้เป็นพื้นฐานในการทำกำไรในตลาดนี้.