วิธีการดำเนินการในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา

ในการปรับตัวของตลาด การเคลื่อนไหวที่ขึ้นๆ ลงๆ ทำให้นักลงทุนรู้สึกสับสน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อตลาดปรับตัวขึ้น นักลงทุนก็มักจะซื้อเลย แต่เมื่อมันปรับตัวลงก็รีบขาย ผลสุดท้ายเมื่อมาพิจารณาผลการลงทุนของตนก็พบว่าความเสียหายก่ายกอง สาเหตุมาจากความคิดในการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องในช่วงการปรับตัวของตลาดและวิธีการดำเนินการที่ไม่แม่นยำเช่นเดียวกันกับโอกาสในการซื้อที่ไม่ถูกต้อง

แนวคิดในการดำเนินการ

แนวความคิดในการดำเนินการในช่วงการปรับตัวของตลาดคือการลดจำนวนครั้งในการทำการซื้อขายและลดความคาดหวังในการทำกำไรในแต่ละครั้ง นี่คือหลักการพื้นฐาน หากทำได้เช่นนี้ ก็จะสามารถทำได้ถูกต้องในแต่ละคลื่นและสร้างผลกำไรให้มากที่สุด เมื่อแปลแนวคิดในการดำเนินการข้างต้นให้เป็นการดำเนินการจริง ก็คือการทำให้ดีในแต่ละคลื่นการฟื้นตัวและหลีกเลี่ยงการตกต่ำทุกคลื่น

การเข้าร่วมการฟื้นตัว

บทความนี้จะพูดถึงวิธีการเข้าร่วมในการฟื้นตัว ซึ่งก็คือการระบุและเข้าไปมีส่วนร่วมในแต่ละคลื่นการฟื้นตัว โดยหลักคือการยืนยันจุดซื้อขายที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ มีนักลงทุนมากมายที่เลือกใช้วิธีการในการตัดสินใจเมื่อเห็นว่าตลาดใกล้จะถึงจุดต่ำสุด โดยเข้าไปซื้อขายที่ราคาต่ำอยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งจุดต่ำสุดปรากฏ จึงหวังผลกำไรจากการฟื้นตัว วิธีการนี้ดูดีเพราะอาจทำให้ได้ต้นทุนที่ต่ำหรือแม้กระทั่งซื้อที่ราคาต่ำสุด แต่ในความเป็นจริงวิธีการนี้มีความเสี่ยงอยู่ครับ และไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุด

วิธีการที่ดีกว่า

วิธีการที่ดีกว่าคือการรอให้สัญญาณหยุดตกปรากฏก่อน จากนั้นก็นำสัญญาณหยุดตกที่ยืนยันแล้วไปใช้ โดยเลือกเข้าไปซื้อในช่วงราคาที่ต่ำกว่าจุดที่สัญญาณหยุดตกได้ปรากฏ และสูงกว่าจุดที่เกิดสัญญาณหยุดตกซึ่งเกิดขึ้นภายหลัง การดำเนินการเช่นนี้จะมีความปลอดภัยมากและต้นทุนก็จะถูกกว่ามาก เราทราบว่าตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรามีกฎหนึ่ง: หลังจากการขึ้นของคลื่น การปรับราคาลงจะต้องเกิดขึ้นเพื่อปรับสมดุล เช่นเดียวกัน หลังจากคลื่นราคาลง ย่อมมีการฟื้นตัวเกิดขึ้น

การมองหาสัญญาณหยุดตก

เมื่อเราเห็นว่ามีกระบวนการที่ตลาดกำลังลดต่ำ เราสามารถมองหาสัญญาณหยุดตกได้ จากการสังเกตว่าคลื่นราคาลงนั้นได้มีการลดต่ำลงหรือไม่ และช่วงที่ลดเวลานานแค่ไหน ทั้งนี้เรายังต้องสังเกตว่าถ้าตลาดกำลังอยู่ในช่วงที่ลดลงอย่างรวดเร็วหรือไม่ และตลาดมีที่มาของความตื่นตระหนกหรือไม่ สัญญาณหยุดตกคือการปรากฏของรูปแบบ K-line ที่มีแนวโน้มเป็นบวก

จุดซื้อ

จุดที่สมควรเป็นจุดซื้อคือจุดที่ต่ำกว่าสัญญาณหยุดตกครั้งที่สอง ที่มีความสูงกว่าสัญญาณหยุดตก คุณอาจใช้แนวโน้มของการตั้งค่าจุดที่สองเพื่อดูว่าสัญญาณเหล่านี้มีประสิทธิภาพหรือไม่ ซึ่งอาจทำให้คุณพิจารณาตัดสินใจในการซื้อขายในอนาคต สุดท้าย เราแค่เพียงต้องใส่ใจและมองหาในช่วงสิ้นสุดของคลื่นการลดลงและรอให้เกิดสัญญาณหยุดตก ก่อนที่เราจะรอให้จุดซื้อมาปรากฏ เพื่อที่จะสามารถลดจำนวนการทำการซื้อขายและเพิ่มความสำเร็จของการลงทุนให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ