แนวคิดเกี่ยวกับโมเดลการซื้อขาย

อย่าเข้าใจโมเดลการเทรดเป็นเรื่องลี้ลับ และอย่าให้มันดูเป็นเรื่องที่เหนือจริง โมเดลการซื้อขายจริงๆ แล้วก็คือแนวคิดและหลักการเทรดของคุณถูกทำให้เป็นเชิงปริมาณและเขียนเป็นสูตรที่มีจุดซื้อขายที่แม่นยำ ดังนั้น แนวคิดการเทรดและความคิดทางเทคนิคต้องมาก่อนโมเดลการเทรด นี่คือความสัมพันธ์ที่พื้นฐานที่สุด ที่ไม่ควรสลับกัน! การซื้อขายฟอเร็กซ์' style='' class='right-float-img'>

โมเดลการซื้อขายที่สมบูรณ์

โมเดลการซื้อขายที่สมบูรณ์แบบและพร้อมใช้ในการเทรดในสถานการณ์จริงนั้นต้องมีการกำหนดแนวโน้ม ความหมายของการเคลื่อนไหวที่มีการแกว่งตัว ความหมายของการเริ่มต้นแนวโน้ม และสถานการณ์ที่นับเป็นการเริ่มต้นของแนวโน้ม รวมถึงสถานการณ์ที่นับเป็นการเบรกที่ผิดพลาดและขาดทุนเล็กน้อย แต่ยังต้องสามารถทำกำไรในขณะเสร็จสิ้นแนวโน้ม นักลงทุนต่างๆ มีการกำหนดแนวโน้มและการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน ระยะเวลาของการซื้อขายที่ใช้ก็แตกต่างกันไป ความแตกต่างระยะเวลาก็จะมีลักษณะการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน โดยที่ระยะเวลาที่สั้นจะมีการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนมากขึ้น!

การตีความแนวโน้มและการใช้เทคนิคที่ชัดเจน

จากแนวคิดการเทรด โมเดลการเทรดที่ยอดเยี่ยมต้องมีการกำหนดแนวโน้มอย่างชัดเจน จากการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ชัดเจนในการกำหนดการเริ่มต้นและสิ้นสุดของแนวโน้ม นอกจากนี้ยังต้องทำงานร่วมกับการกำหนดการเคลื่อนไหวที่จำเป็น ต้องมีการควบคุมการเคลื่อนไหวที่สามารถกรองทิ้งได้ และเคลื่อนไหวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จำเป็นต้องเข้าใจว่ามีค่าใช้จ่ายในการซื้อขาย ถ้าไม่รวมการขาดทุนเล็กน้อยพวกนี้ การซื้อขายตามแนวโน้มจะนำไปสู่กำไรที่มากขึ้น หากมีแนวคิดการเทรดที่ดีแล้ว โมเดลการเทรดที่ดีจะตามมา

ข้อดีและข้อเสียของการเทรดแบบโมเดลและแบบประสบการณ์

การเทรดแบบโมเดลและแบบประสบการณ์มีข้อดีและข้อเสีย การเทรดแบบโมเดลจะทำให้แต่ละจุดซื้อขายชัดเจน ทำให้ผู้ค้าใช้โมเดลเพื่อตรงตามการเคลื่อนไหวที่ไม่สามารถคาดการณ์ในอนาคต ต้องเผชิญกับการขาดทุนเล็กน้อยซ้ำๆ ระหว่างการแกว่งตัว แต่เมื่อแนวโน้มเปิดออกมาต้องได้รับผลกำไรจำนวนมาก และการเทรดแบบนี้เป็นการซื้อขายที่ไม่มีอารมณ์ทำให้เกิดผลกำไรที่เสถียรในระยะยาว แม้ว่าจะไม่สามารถสร้างผลกำไรที่มหาศาลได้แบบไม่คาดคิด

อัตราการชนะของโมเดลที่เหมาะสมสำหรับการใช้ในสนามจริง

โมเดลที่สามารถใช้งานได้จริงจะมีอัตราการชนะไม่เกิน 60% โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 45% (40%-50%) นี่คือสิ่งที่ตลาดกำหนดและไม่ใช่โมเดลที่ตั้งใจจะสร้าง ข้อเท็จจริงนี้ก็ง่าย โดยที่อนาคตไม่สามารถคาดการณ์ได้ ซึ่งอาจจะเกิดการเคลื่อนไหวเชิงเส้นที่มีประสิทธิภาพ หรืออาจจะเกิดการเคลื่อนไหวแบบคงที่เป็นระยะเวลานาน โมเดลการเทรดตามแนวโน้มไม่ได้มีฟังก์ชันการคาดการณ์ มันแค่ทำตามเท่านั้น

โปรแกรมการทดสอบโมเดลที่ไม่น่าเชื่อถือ

บนอินเทอร์เน็ตมีรายงานการทดสอบโมเดลที่ให้ผลกำไรสูงมากและอัตราการชนะสูง ซึ่งล้วนจัดว่าเป็นข้อมูลเท็จไม่มีโมเดลไหนที่เหมาะสมจริงจะใช้ในสนาม สำหรับโมเดลเทียมมี 3 ประเภท ประเภทแรกคือการปรับเทียบจากประวัติ ประเภทที่สองคือการเปลี่ยนแนวคิดการทดสอบ และประเภทที่สามคือฟังก์ชันในอนาคต ประเภทแรกที่เป็นการปรับเทียบประวัติแน่นอนว่าเพื่อนๆ จะต้องสามารถเข้าใจหลักการนี้ ประเภทที่สองคือการใช้ราคาในปิดตลาดมาใช้ในการทดสอบ ซึ่งการทดสอบนี้จะทำให้ตัวเลขการค้าสูงขึ้นอย่างฟ่องฟู

ความแตกต่างระหว่างโมเดลการซื้อขายแบบถึงจุดปิดและแบบอัตโนมัติ

จากประสบการณ์การค้าในความเป็นจริง ผู้ค้าที่มีแนวโน้มโดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกจะใช้ราคาปิดที่สำเร็จตามไปด้านหลังอย่างมีประสิทธิภาพในการยืนยันการเบรกเพื่อกำหนดจุดเข้าหรือออก ประเภทที่สองไม่สนใจว่าจะปิดหรือไม่ แต่หากราคาที่คิดว่ามีการเบรกเกิดขึ้นในช่วงราคานั้นแล้ว ก็ยอมรับการเบรกเป็นการเบรกที่มีประสิทธิภาพทั้งสองวิธีนี้แตกต่างกัน ทำให้สามารถออกแบบโมเดลการซื้อขายที่แตกต่างไป โดยมีทั้งโมเดลการปิดราคาแบบแมนนวลและโมเดลการเคลื่อนไหวอัตโนมัติ

โมเดลการซื้อขายตามแนวโน้มและการซื้อขายขัดทุน

ตามปกติแล้วโมเดลการซื้อขายส่วนใหญ่จะเป็นโมเดลตามแนวโน้ม เนื่องจากการเทรดตามแนวโน้ม คือทางเลือกที่ดีที่สุดในสุด ที่จะนำไปสู่ผลกำไรที่แท้จริง แต่ก็มีจุดอ่อนในช่วงที่มีการแกว่งตัวที่ต้องเผชิญกับการขาดทุนเล็กน้อย อย่างไรก็ตามสามารถออกแบบควบคุมกรองส่วนหนึ่งได้ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ไม่สามารถกรองออกได้ซึ่งก็เป็นไปตามการเทรดในความจริง