1. การลังเล

นักลงทุนที่มีจิตวิทยาการลงทุนแบบนี้ เมื่อซื้อขายสกุลเงินบางอย่าง จะมีแผนการและกลยุทธ์การลงทุนที่ดี แต่เมื่อถูกอิทธิพลจาก “จิตวิทยาฝูงชน” ขณะเข้าไปในตลาดสกุลเงิน มักไม่สามารถสร้างพอร์ตการลงทุนฟอเร็กซ์ที่ดีได้ เมื่อมีความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น ก็ไม่สามารถดำเนินการตามแผนการลงทุนของตนได้ ตัวอย่างเช่น นักลงทุนมักจะรู้ได้ว่า สกุลเงินที่ถืออยู่ในมือมีราคาแพงเกินไป จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการขาย แต่เมื่อถึงเวลาจริง เมื่อได้ยินความคิดเห็นที่แตกต่างจากผู้อื่น การตัดสินใจขายสกุลเงินนั้นจะถูกเปลี่ยนแปลง และนักลงทุนจะพลาดโอกาสที่ดีในการขาย หรือนักลงทุนอาจเห็นว่าสกุลเงินบางตัวมีราคาเกินจริง จึงคิดว่าจะเป็นเวลาที่ดีในการเข้าซื้อ แต่เมื่อเห็นจำนวนคนที่ขายสกุลเงินนั้นเป็นจำนวนมากก็จะย่อมเกิดความกลัว และรีบถอนตัวจากการลงทุนไป จนเสียโอกาสในการทำกำไร

2. การตามกระแสแบบไม่ใคร่ครวญ

ตลาดฟอเร็กซ์มีปัจจัยหลายอย่างที่ซับซ้อนและส่งผลต่อกัน โดยเฉพาะจิตวิทยาการตามกระแสของนักลงทุนที่มีผลกระทบมาก หากนักลงทุนเห็นคนอื่นซื้อสกุลเงิน ก็จะรู้สึกกลัวว่าจะตามไม่ทัน จึงลงทุนโดยไม่เข้าใจถึงรายละเอียดของสกุลเงินนั้น และเมื่อเห็นผู้อื่นขายสกุลเงิน ก็ไม่สอบถามถึงเหตุผลที่ขาย แต่กลับขายสกุลเงินที่มีศักยภาพสูงที่อยู่ในมือออกไปอย่างไม่รู้ตัว บางครั้งข่าวลือก็อาจสร้างความโกลาหลในตลาดฟอเร็กซ์ โดยเฉพาะเมื่อเรามีจิตวิทยาฝูงชนที่ส่งผลให้เกิดการขายมากเกินไป ราคาจึงตกต่ำ นักลงทุนควรมีสติในการตัดสินใจซื้อขาย ไม่ควรตามกระแสของผู้อื่น

3. ความโลภที่ไม่มีที่สิ้นสุด

การที่นักลงทุนต้องการผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นเรื่องปกติ แต่ควรระมัดระวังไม่ให้มีความโลภมากเกินไป บ่อยครั้งที่ความล้มเหลวของนักลงทุนเกิดจากความโลภอย่างมาก นักลงทุนบางคนไม่ต้องการจะปล่อยเงินกำไรเลยแม้แต่น้อย เมื่อตลาดมีการปรับตัวขึ้น จะไม่กล้าเดิมพันว่าเป็นเวลาที่ควรจะขาย โดยคิดว่าตนจะสามารถรักษาผลกำไรให้ได้จนถึงช่วงสุดท้ายของชัยชนะ บางครั้งยังมองข้ามความเสี่ยง ในขณะเดียวกัน เมื่อราคาตลาดตกต่ำ ก็หวังว่า ราคาจะตกลงไปอีก นี่คือปัญหาหลักที่นักลงทุนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ ความปรารถนาที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้ อาจนำไปสู่อดีตที่มีผลกำไรเข้าสู่ความสูญเสียที่เกิดจากคนที่ยังมองไม่เห็นถึงความเสี่ยงจากผลตอบแทนที่สูง