การเทรดแบบเป็นระบบ

ในตอนนี้ฉันเชื่อว่าการทำโปรแกรมการเทรดไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่สำคัญคือตรรกะของคนแต่ละคน ฉันใช้วิธีการทำฟิวเจอร์สแบบมั่นคง ถือว่าเป็นการสร้างฐานอย่างเป็นระบบ ดังนั้นฉันไม่ได้มองว่าปีนี้รายได้ของฉันจะสูงแค่ไหน แต่ฉันถือว่าหากฉันสามารถรักษาเงินต้นได้ ฉันก็ถือว่าชนะแล้ว

การบริหารจัดการเงิน

ฉันไม่สามารถมองฟิวเจอร์สว่าเป็นต้นไม้เงินหรือเครื่องพิมพ์เงินได้ และเลเวอเรจเป็นดาบสองคม มันสามารถนำความสำเร็จมาสู่คุณหรือทำให้คุณสูญเสียทุกอย่าง เมื่อมีการปรับตัว ถ้าฉันสามารถยึดมั่นได้ ฉันก็จะเป็นผู้ชนะ

โมเดลการเทรด

ฉันเชื่อว่าโมเดลไม่มีการหมดอายุ แต่ขึ้นอยู่กับว่าโมเดลนั้นจะเหมาะกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือไม่ ฉันได้กำหนดกรอบและค่าพื้นฐานของกลยุทธ์หุ้นของฉันไว้ตั้งแต่สองปีที่แล้ว โดยในโมเดล ฉันไม่เคยตั้งค่าคงที่ แต่พยายามทำให้พารามิเตอร์ปรับตัวได้

การควบคุมความเสี่ยง

ฉันคิดว่าในระยะยาวการทำการเทรดควรใช้การเพิ่มหรือลดตำแหน่งเพื่อปรับปรุงการเทรดของเรา คิดให้ออกว่าการเพิ่มตำแหน่งนั้นควรทำที่จุดไหนบ้าง

ประสบการณ์ส่วนตัว

ชื่อของนักลงทุนท่านนี้คือจางเว่ยฝู ซึ่งมีประสบการณ์ในการทำงานหลายด้าน รวมถึงการตัดผม จนสามารถสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ สุดท้ายเขาได้หันมาเรียนการเทรดโปรแกรม

การพัฒนาแผนการเทรด

การเล่นหุ้นในช่วงต้นเป็นงานอดิเรกของเขา โดยใช้การวิเคราะห์พื้นฐานเพื่อรับเงินในตลาด แต่เมื่อเกิดการปรับตัวในปี 2008 เขามองเห็นแนวทางใหม่ในการซื้อขายฟิวเจอร์ส

การใช้การเพิ่มหรือลดตำแหน่ง

ฉันมองว่าการเพิ่มตำแหน่งสามารถกระทำได้มากกว่าเพียงแค่การเพิ่มในแต่ละครั้ง ฉันมีการใช้กลยุทธ์การเพิ่มตำแหน่งอย่างเป็นระเบียบ โดยการวางแผนการเข้าซื้อและการขายอย่างแม่นยำ

การรักษากลยุทธ์

ฉันเน้นการใช้กลยุทธ์ที่ง่ายและคล่องตัวเพื่อความสำเร็จในระยะยาว ชาะเจาะจงในการเลือกใช้กลยุทธ์ที่ไม่เปลี่ยนแปลงในระยะยาว

การรักษาอารมณ์

สิ่งที่สำคัญคือการรู้จักควบคุมอารมณ์ในการเทรด โดยเฉพาะเมื่อเจอกับความเสียหาย จำเป็นต้องมีความมั่นใจในกลยุทธ์และมองภาพรวม

สรุป

ฉันเชื่อว่าการใช้การเพิ่มหรือลดตำแหน่งในการเทรดนั้นมีความสำคัญสูง โดยเฉพาะในตลาดที่มีความผันผวน เพื่อให้สามารถจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ