การเปรียบเทียบการเทรดกับธุรกิจ

ถ้าเรานำการทำการเทรดมาเปรียบเทียบกับการทำธุรกิจ บันทึกการซื้อขายจะเสมือนกับบัญชีการเงินของนักธุรกิจ ที่บันทึกกำไรและขาดทุนอย่างชัดเจน และช่วยในการปรับปรุงและเพิ่มผลกำไรให้สูงสุด จริงอยู่ที่ไม่ว่าจะเป็นการทำการซื้อขายหรือการทำธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมักจะย้อนดูประสบการณ์ของตนเองและสรุปเพื่อพัฒนาหลักการและระบบของตน การเขียนบันทึกถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญ

ทำไมต้องเขียนบันทึกการซื้อขาย?

นักเทรดบางคนอาจจะคิดว่าการเขียนบันทึกการซื้อขายทุกวันนั้นน่าเบื่อและยุ่งยาก โดยเฉพาะในกรณีที่มีการสั่งซื้อบ่อย แต่ทำไมต้องยังคงเขียน? แค่ส่งออกประวัติการซื้อขายจากแพลตฟอร์ตก็เพียงพอแล้วใช่ไหม? ที่จริงแล้ว บันทึกการซื้อขายที่มีประโยชน์ไม่ได้มีเพียงแค่การระบุและบันทึกข้อมูลการเทรด เรายังต้องบันทึกความคิดและอารมณ์ระหว่างการเทรด กลยุทธ์การเทรด การจัดการเงิน และเนื้อหาอื่นๆ เมื่อคุณสม่ำเสมอในการเขียนบันทึกซักสองสามสัปดาห์หรือแม้กระทั่งสองสามเดือน คุณจะพบกับความลับของมัน

บันทึกการซื้อขายคืออะไร?

บันทึกการซื้อขายสามารถเป็นได้ทั้งที่ซับซ้อนและเรียบง่าย แบ่งออกเป็นการบันทึกข้อมูลเชิงวัตถุและการบันทึกข้อมูลเชิงอารมณ์ ข้อมูลเชิงวัตถุมักรวมถึง: สินค้าอัตราแลกเปลี่ยน, เวลาเข้าซื้อและออกขาย, ขนาดและสถานะของตำแหน่ง, ราคาเปิด/ราคาเสนอ, จุดหยุดขาดทุนและจุดกำไร, พ้อยด์ขาดทุนและกำไร, กำไรสุทธิ, อัตราความเสี่ยง ต่อผลตอบแทน และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม (เช่น ค่าคอมมิชชั่น, ค่าฟีข้ามคืน) เป็นต้น นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มเหตุผลและความคิดเห็นสำหรับการเข้าและออกตลาด ประสบการณ์การเทรด และการเปลี่ยนแปลงของความคิด เป็นต้น

เครื่องมือที่ใช้ในการเขียนบันทึก

นอกจากจะต้องวางแผนว่าจะแก้ไขเนื้อหาอย่างไร เราต้องเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการเขียนบันทึกการซื้อขาย ผู้เขียนได้ระบุเครื่องมือที่ใช้บ่อยสองชนิด: Excel/Word โปรแกรม Excel หรือ Word ต่างเป็นเครื่องมือการบันทึกที่ง่ายและใช้งานได้ง่าย สามารถเลือกดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ตหรือสร้างขึ้นเองได้ อย่างไรก็ตาม บันทึกการซื้อขายนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ไม่จำเป็นต้องทำตามขั้นตอนเดียวกัน ขอเพียงช่วยให้คุณจัดระเบียบการดำเนินการและความคิดในการซื้อขาย นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด