การใช้ตัวชี้วัด Oscillator เพื่อระบุโอกาสการกลับตัวของราคา
Oscillator คืออะไร?
Oscillator เป็นตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้ในการระบุภาวะซื้อมากเกินไป (Overbought) และขายมากเกินไป (Oversold) ในตลาด โดยตัวชี้วัดนี้มักจะแสดงเป็นกราฟที่เคลื่อนไหวอยู่ระหว่างค่าที่กำหนด ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถมองเห็นโอกาสในการกลับตัวของราคาในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง
วิธีการใช้ Oscillator ในการระบุการกลับตัวของราคา
ตัวชี้วัด Oscillator ที่นิยมใช้ในการระบุโอกาสการกลับตัวของราคา ได้แก่:
- RSI (Relative Strength Index): RSI ใช้ในการระบุภาวะซื้อมากเกินไปเมื่อค่ามากกว่า 70 และขายมากเกินไปเมื่อค่าน้อยกว่า 30 หาก RSI อยู่ในโซนนี้ อาจบ่งบอกถึงการกลับตัวของราคาในอนาคต
- Stochastic Oscillator: ตัวชี้วัดนี้บอกถึงความเร็วและโมเมนตัมของราคา โดยเมื่อค่าสูงกว่า 80 จะบ่งบอกถึงภาวะซื้อมากเกินไป และเมื่อค่าต่ำกว่า 20 จะบ่งบอกถึงภาวะขายมากเกินไป
- MACD (Moving Average Convergence Divergence): แม้ว่า MACD จะไม่ใช่ Oscillator โดยตรง แต่การใช้ร่วมกับเส้น Signal สามารถช่วยยืนยันการกลับตัวได้
การยืนยันสัญญาณการกลับตัวด้วย Oscillator
เมื่อใช้ Oscillator ในการเทรด การยืนยันสัญญาณการกลับตัวมีความสำคัญ โดยวิธีการยืนยันสัญญาณมีดังนี้:
- หาก RSI อยู่ในโซนซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป ควรตรวจสอบการกลับตัวจากแท่งเทียนหรือรูปแบบกราฟอื่น ๆ
- การเกิด Divergence ระหว่าง Oscillator และราคา เช่น เมื่อราคาทำจุดต่ำใหม่ แต่ RSI ไม่ทำจุดต่ำใหม่ อาจบ่งบอกถึงการกลับตัวขึ้น
ข้อดีของการใช้ Oscillator
Oscillator เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการระบุโอกาสการกลับตัวของราคาในตลาด ข้อดี ได้แก่:
- ช่วยระบุจุดซื้อมากเกินไปและขายมากเกินไปได้อย่างแม่นยำ
- สามารถใช้ยืนยันสัญญาณการกลับตัวร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ เช่น MACD หรือ Fibonacci Retracement
- เป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับการเทรดในตลาดที่มีความผันผวนสูง
บทสรุป
Oscillator เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการระบุโอกาสการกลับตัวของราคาในตลาดฟอเร็กซ์ การใช้ RSI, Stochastic และ MACD ร่วมกันจะช่วยให้นักเทรดสามารถจับจังหวะการกลับตัวได้อย่างแม่นยำและลดความเสี่ยงในการเทรด การยืนยันสัญญาณด้วย Divergence และตัวชี้วัดอื่น ๆ จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ