วิธีใช้แนวรับและแนวต้านในการทำการซื้อขายแบบทะลุผ่าน (Breakout Trading)

แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance) เป็นจุดสำคัญที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อระบุระดับราคาที่ตลาดมีแนวโน้มที่จะหยุดพักหรือกลับทิศทาง การซื้อขายแบบทะลุผ่าน (Breakout Trading) เป็นกลยุทธ์ที่นักลงทุนใช้เมื่อราคาทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้าน โดยคาดหวังว่าราคาจะเคลื่อนไหวต่อเนื่องในทิศทางเดียวกันหลังจากทะลุผ่านระดับนั้นไป

แนวรับและแนวต้านคืออะไร?

แนวรับ (Support): เป็นระดับราคาที่ราคามักจะหยุดพักและไม่ตกลงไปต่อเนื่อง เนื่องจากมีความต้องการซื้อสูงในระดับนั้น

แนวต้าน (Resistance): เป็นระดับราคาที่ราคามักจะหยุดพักและไม่ขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากมีความต้องการขายสูงในระดับนั้น

การซื้อขายแบบทะลุผ่านคืออะไร?

การซื้อขายแบบทะลุผ่าน (Breakout) คือการซื้อขายเมื่อราคาทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ การทะลุผ่านมักจะเป็นสัญญาณว่าแนวโน้มใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้นในทิศทางที่ราคาทะลุออกไป

วิธีการใช้แนวรับและแนวต้านในการซื้อขายแบบทะลุผ่าน

มีกลยุทธ์หลายอย่างที่นักลงทุนสามารถใช้เมื่อทำการซื้อขายแบบทะลุผ่านแนวรับและแนวต้าน:

• การรอการยืนยัน (Wait for Confirmation): รอให้ราคาปิดเหนือแนวต้านหรือใต้แนวรับ เพื่อให้แน่ใจว่าการทะลุผ่านนั้นไม่ใช่การทะลุหลอก (False Breakout)
• การใช้ตัวชี้วัดเพิ่มเติม: ใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิคเช่น RSI หรือ MACD เพื่อยืนยันการทะลุผ่าน เช่น หาก RSI อยู่ในภาวะซื้อเกินหรือต่ำเกิน อาจบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของการทะลุผ่าน
• การตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss): กำหนดจุดหยุดขาดทุนใต้แนวรับหากทำการซื้อ หรือเหนือแนวต้านหากทำการขาย เพื่อลดความเสี่ยงในกรณีที่เกิดการทะลุหลอก

การเลือกเวลาที่เหมาะสมในการเข้าและออกจากการซื้อขาย

การเลือกเวลาที่เหมาะสมในการเข้าและออกจากการซื้อขายเป็นสิ่งสำคัญในการทำการซื้อขายแบบทะลุผ่าน:

• เข้าสู่การซื้อขายหลังจากยืนยัน: รอให้แท่งเทียนยืนยันว่าราคาทะลุผ่านแนวรับหรือแนวต้านแล้วจึงเข้าสู่การซื้อขาย
• การตั้งเป้าหมายทำกำไร: ตั้งเป้าหมายทำกำไร (Take Profit) ตามระดับราคาที่เคลื่อนไหวต่อเนื่องหลังจากการทะลุผ่าน หรือใช้ระดับ Fibonacci เพื่อช่วยกำหนดระดับเป้าหมาย

ข้อดีและข้อเสียของการซื้อขายแบบทะลุผ่าน

กลยุทธ์การซื้อขายแบบทะลุผ่านมีข้อดีและข้อเสียที่นักลงทุนควรพิจารณา:

• ข้อดี: ช่วยในการระบุแนวโน้มใหม่, มีโอกาสทำกำไรสูงหากการทะลุผ่านเป็นจริง
• ข้อเสีย: มีความเสี่ยงจากการทะลุหลอก, ต้องการการยืนยันจากตัวชี้วัดอื่นๆ เพื่อความแม่นยำ

บทสรุป

การใช้แนวรับและแนวต้านในการทำการซื้อขายแบบทะลุผ่านเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการระบุแนวโน้มใหม่ในตลาดฟอเร็กซ์ การยืนยันการทะลุผ่านและการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้นักลงทุนทำกำไรและลดความเสี่ยงจากการซื้อขาย